ทานมีหลายทาน ยกตัวอย่าง คนกำลังเราก็ช่วยเขา เราได้บุญ นี่ก็เป็นทาน
เขาไม่มีข้าวปลาอาหารรับประทาน เราก็เอาไปให้เขา เขาเป็นคนยากไร้ ไม่
มีเสื้อผ้าใส่ เราก็เอาไปให้ นี่ก็เรียกว่าทานอีกเหมือนกัน ก็ช่วยเหลือกันไป
ตามตำราเขาว่า เรายิ่งให้ยิ่งได้ แต่ถ้าเราหวงมันอด หมดก็ไม่มีมา
แต่ว่าทานอะไรก็ไม่ล้ำเลิศประเสริฐ
เท่ากับการให้ความดีเป็นทาน หรือให้ธรรมะเป็นทาน
การที่เราช่วยให้เขาเป็นคนดีนะดีที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้น ทานอะไรหนอ
ทานน้ำใจใสสะอาด ปราศจากมลทินที่เราให้จะประเสริฐเท่ากับให้ธรรมมะ
เป็นทานนี่ประเสริฐสุดแล้ว
การทำคนให้เป็นคนดี ให้ละความชั่วประพฤติดี รักษาจิตให้ผ่องใส
นั่นเเหละคือทานชั้นสูง แต่การจะช่วยคนอื่นให้ละชั่วประพฤชอบได้
ก็ด้วยเรามีโอกาสได้ชึ้แจงให้เขาได้ประพฤธรรมในพระพุทธศาสนาบ้าง
ด้วยการพิมพ์หนังสือแจกจ่ายเป็นธรรมทานบ้าง เพราะการช่วยให้โจร
เป็นคนดี ให้คนชั่วเป็นคนดีได้ และให้คนไม่มีความรู้มีความรู้ได้ เป็นการ
ให้ทานอันประเสริฐยิ่ง สมจริงตามพระพุทธดำรัสว่า
ขอให้ท่านพร้อมสมาชิกในครอบครัว ได้สวมมนต์กันทุกคนทุกครอบครัว
เพื่อเป็นมรดกในชีวิต จะเกิดฐานะดี มีปัญญา มีความสุขความเจริญยิ่งๆ
ขึ้นไปในชีวิต ขอให้ท่านชักชวนลูกหลานทุกๆคน สวดมนต์ก่อนนอน
ถ้าท่านทั้งหลายมีความตั้งใจ ศรัทธา
และเชื่อมั่นลูกหลานได้สวดมนต์ตามนี้แล้ว ผลที่ได้รับจากการสวดมนต์นี้
1.ลูกหลานจะมีระเบียบวินัยที่ดี
2.ลูกหลานไม่เถียง จะเคารพเชื่อฟังพ่อแม่ เขาจะรู้ว่า เขาเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
จะวางตัวได้เหมาะสม
3.เมื่อเจริญวัยเป็นหนุ่มสาว ก็จะเป็นลูกหลานที่ดีของพ่อแม่ เป็นพลเมืองที่ดี
ของสังคมประเทศชาติ
4.ผู้ที่สวดปฏิบัติเป็นประจำจะเจริญรุ่งเรืองวัฒนาสถาพรจะรวย จะรวย จะดีมีปัญญา
จะสมประสงค์ในสิ่งที่ดีงามตลอดไปทุก ประการ
สร้างพุทธคุณให้เกิดในตน มีผลพ้นบ่วงมาร
บทสวดมนต์ "อิส์วาสุ พาหุง มหากา" หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า
"พุทธชัยมงคลคาถา" นับว่าเป็นบทสวดที่พุทธศาสนิกชนได้ยินได้ฟังกันจนคุ้ยเคย
มาเป็นเวลาช้านานเพราะในงานบุญงานกุศลต่างๆพระท่านก็นิยมสวดบทนี้อยู่เป็นประจำ
เพราะเชื่อว่าบทสวดนี้มีอานุภาพเนื่องจากเป็นคาถาที่นำเอาเหตุการณ์ต่างๆ
ที่พระพุทธเจ้าทรงผจญและชนะมารได้รวมลงไว้ในคาถานี้
อันที่จริง ความเข้มขลังของพลังพระพุทธมนต์บทนี้ อยู่ที่สารธรรม
คือพุทธวิธีที่ทรงใช้ เพราะชัยชนะของพระพุทธองค์ มิใช่ทรงมาได้ด้วยพละกำลัง
แต่ทรงได้มาด้วยพระธรรมของพระองค์เอง คือพระปัญญาคุณ
พระบริสุทธิคุณและพระกรุณาคุณ จึงเป็นชัยชนะที่มิต้องมีการเสียเนื้อของผู้เข้ามา
ผจญแต่อย่างใด
ในชีวิตจริงของเราปัจจุบันนี้ ก็มีอุปสรรคปัญหาต่างๆ ผ่านเข้ามาอยู่
เสมอบางอย่างเป็นผลจากกรรมที่ทำไว้ในอดีตผ่านมา บางคราก็เกิดจาก
กรรมปัจจุปัน ดังนั้น หากผู้สวดปรารถนาความเข้มขลังจากตัวคาถามาช่วย
ตัดกรรม ก็ต้องน้อมนำสารธรรมทีแฝงความหมายของเเง่คิดในบทสวด
มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ ตามที่ได้แนะนำไว้ หวังอย่างยิ่งว่า
สารธรรมจากคำสอนพร้อมคำสวดในเล่มนี้ จักมีผลให้ท่านทั้งหลายได้เกิด
สติปัญญาขจัดปัดเป่าอุปสรรคข้อข้องเหล่านั้นให้หมดสิ้นไปจากชีวิต
ด้วยดวงจิตที่ปรารถนาให้ทุกท่านเกิดสันติสุขในใจ
ไพยนต์ กาสี
(น.ธ. เอก, ป.ธ.๖ พธ.บ.,น.บ.)
รวบรวมและเสริมสารธรรมในนามคณาจารย์สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง
พิมโดย พัสกร กันทะรส
เขาไม่มีข้าวปลาอาหารรับประทาน เราก็เอาไปให้เขา เขาเป็นคนยากไร้ ไม่
มีเสื้อผ้าใส่ เราก็เอาไปให้ นี่ก็เรียกว่าทานอีกเหมือนกัน ก็ช่วยเหลือกันไป
ตามตำราเขาว่า เรายิ่งให้ยิ่งได้ แต่ถ้าเราหวงมันอด หมดก็ไม่มีมา
แต่ว่าทานอะไรก็ไม่ล้ำเลิศประเสริฐ
เท่ากับการให้ความดีเป็นทาน หรือให้ธรรมะเป็นทาน
การที่เราช่วยให้เขาเป็นคนดีนะดีที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้น ทานอะไรหนอ
ทานน้ำใจใสสะอาด ปราศจากมลทินที่เราให้จะประเสริฐเท่ากับให้ธรรมมะ
เป็นทานนี่ประเสริฐสุดแล้ว
การทำคนให้เป็นคนดี ให้ละความชั่วประพฤติดี รักษาจิตให้ผ่องใส
นั่นเเหละคือทานชั้นสูง แต่การจะช่วยคนอื่นให้ละชั่วประพฤชอบได้
ก็ด้วยเรามีโอกาสได้ชึ้แจงให้เขาได้ประพฤธรรมในพระพุทธศาสนาบ้าง
ด้วยการพิมพ์หนังสือแจกจ่ายเป็นธรรมทานบ้าง เพราะการช่วยให้โจร
เป็นคนดี ให้คนชั่วเป็นคนดีได้ และให้คนไม่มีความรู้มีความรู้ได้ เป็นการ
ให้ทานอันประเสริฐยิ่ง สมจริงตามพระพุทธดำรัสว่า
ขอให้ท่านพร้อมสมาชิกในครอบครัว ได้สวมมนต์กันทุกคนทุกครอบครัว
เพื่อเป็นมรดกในชีวิต จะเกิดฐานะดี มีปัญญา มีความสุขความเจริญยิ่งๆ
ขึ้นไปในชีวิต ขอให้ท่านชักชวนลูกหลานทุกๆคน สวดมนต์ก่อนนอน
ถ้าท่านทั้งหลายมีความตั้งใจ ศรัทธา
และเชื่อมั่นลูกหลานได้สวดมนต์ตามนี้แล้ว ผลที่ได้รับจากการสวดมนต์นี้
1.ลูกหลานจะมีระเบียบวินัยที่ดี
2.ลูกหลานไม่เถียง จะเคารพเชื่อฟังพ่อแม่ เขาจะรู้ว่า เขาเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
จะวางตัวได้เหมาะสม
3.เมื่อเจริญวัยเป็นหนุ่มสาว ก็จะเป็นลูกหลานที่ดีของพ่อแม่ เป็นพลเมืองที่ดี
ของสังคมประเทศชาติ
4.ผู้ที่สวดปฏิบัติเป็นประจำจะเจริญรุ่งเรืองวัฒนาสถาพรจะรวย จะรวย จะดีมีปัญญา
จะสมประสงค์ในสิ่งที่ดีงามตลอดไปทุก ประการ
สร้างพุทธคุณให้เกิดในตน มีผลพ้นบ่วงมาร
บทสวดมนต์ "อิส์วาสุ พาหุง มหากา" หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า
"พุทธชัยมงคลคาถา" นับว่าเป็นบทสวดที่พุทธศาสนิกชนได้ยินได้ฟังกันจนคุ้ยเคย
มาเป็นเวลาช้านานเพราะในงานบุญงานกุศลต่างๆพระท่านก็นิยมสวดบทนี้อยู่เป็นประจำ
เพราะเชื่อว่าบทสวดนี้มีอานุภาพเนื่องจากเป็นคาถาที่นำเอาเหตุการณ์ต่างๆ
ที่พระพุทธเจ้าทรงผจญและชนะมารได้รวมลงไว้ในคาถานี้
อันที่จริง ความเข้มขลังของพลังพระพุทธมนต์บทนี้ อยู่ที่สารธรรม
คือพุทธวิธีที่ทรงใช้ เพราะชัยชนะของพระพุทธองค์ มิใช่ทรงมาได้ด้วยพละกำลัง
แต่ทรงได้มาด้วยพระธรรมของพระองค์เอง คือพระปัญญาคุณ
พระบริสุทธิคุณและพระกรุณาคุณ จึงเป็นชัยชนะที่มิต้องมีการเสียเนื้อของผู้เข้ามา
ผจญแต่อย่างใด
ในชีวิตจริงของเราปัจจุบันนี้ ก็มีอุปสรรคปัญหาต่างๆ ผ่านเข้ามาอยู่
เสมอบางอย่างเป็นผลจากกรรมที่ทำไว้ในอดีตผ่านมา บางคราก็เกิดจาก
กรรมปัจจุปัน ดังนั้น หากผู้สวดปรารถนาความเข้มขลังจากตัวคาถามาช่วย
ตัดกรรม ก็ต้องน้อมนำสารธรรมทีแฝงความหมายของเเง่คิดในบทสวด
มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ ตามที่ได้แนะนำไว้ หวังอย่างยิ่งว่า
สารธรรมจากคำสอนพร้อมคำสวดในเล่มนี้ จักมีผลให้ท่านทั้งหลายได้เกิด
สติปัญญาขจัดปัดเป่าอุปสรรคข้อข้องเหล่านั้นให้หมดสิ้นไปจากชีวิต
ด้วยดวงจิตที่ปรารถนาให้ทุกท่านเกิดสันติสุขในใจ
ไพยนต์ กาสี
(น.ธ. เอก, ป.ธ.๖ พธ.บ.,น.บ.)
รวบรวมและเสริมสารธรรมในนามคณาจารย์สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง
พิมโดย พัสกร กันทะรส